ค่าใช้จ่ายในการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการวิจัยที่เลือก และการเลือกว่าจะวิจัยเองหรือจ้างคนนอกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมาช่วยในการทำวิจัย โดยส่วนมากแล้วการคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคแบ่งเป็นส่วนหลัก ๆ ดังนี้

1 วิธีการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล

1. วิธีการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล

วิธีการรวบรวมข้อมูลที่นิยมใช้มี 2 วิธีดังนี้

– วิจัยเชิงปริมาณ

– วิจัยเชิงคุณภาพ

ซึ่งโดยปกติแล้ววิจัยเชิงคุณภาพจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินวิจัยสูงกว่าการวิจัยเชิงปริมาณ เนื่องจากการวิจัยเชิงคุณภาพนั้นจะมีขั้นตอนในการสัมภาษณ์ หรือการสังเกตุการณ์ ซึ่งต้องใช้คน และเครื่องมือบางอย่างที่เกี่ยวข้องในการเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนวิจัยเชิงปริมาณนั้นค่าใช้จ่ายจะอยู่ในส่วนแผนการจัดทำวิจัย และปริมาณแบบสอบถาม ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการวิจัยเชิงคุณภาพ

2 การได้มาของข้อมูล

2. การได้มาของข้อมูล

หากกลุ่มลูกค้าไม่ได้อยู่ในสถานที่ใกล้เคียงกัน อาทิ กลุ่มลูกค้าทำงานอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ การเก็บข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำที่สุดควรจะออกไปเก็บข้อมูลตามหัวเมืองใหญ่ตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่พัก และอาหารของนักวิจัยที่ลงพื้นที่ 

3 เครื่องมือที่เกี่ยวข้อง

3. เครื่องมือที่เกี่ยวข้อง

ในการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นมักมีเครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล และแสดงผลข้อมูลให้ออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลเป็นกราฟิกต่าง ๆ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มักมีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน

4 ความเชี่ยวชาญของนักวิจัย

4. ความเชี่ยวชาญของนักวิจัย

การทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคในบางผลิตภัณฑ์นั้นมีความซับซ้อน ทั้งในส่วนรายละเอียดผลิตภัณฑ์ และกลุ่มลูกค้าที่มีความเฉพาะเจาะจงมาก ๆ งานวิจัยนั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่างานวิจัยอื่น ๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้นสูงกว่านักวิจัยทั่วไป รวมทั้งอาจจะต้องการที่ปรึกษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อออกแบบงานวิจัยให้เหมาะสม

 

โดยสรุปแล้วค่าใช้จ่ายของการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นขึ้นอยู่กับความเฉพาะเจาะจงของงานวิจัย ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดจากงานวิจัยเชิงคุณภาพ การได้มาซึ่งข้อมูล เครื่องมือที่ใช้งานการทำวิจัย และจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะมาช่วยในการวิจัย 

การวางแผนอย่างรอบคอบ เหมาะสมต่อความต้องการ และไม่เฉพาะเจาะจงเกินไปนั้นจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคได้เป็นอย่างมาก และถ้าหากสามารถใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในออนไลน์ให้เป็นประโยชน์แล้ว อาจจะไม่ต้องเสียเงินในการทำวิจัยเลยก็เป็นได้

หากผู้ประกอบการท่านใดต้องการทำวิจัยผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ หรือต้องการที่ปรึกษาในการทำวิจัยการตลาด สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ admins@gotitz.com