เราได้เข้าสู่ยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อของ เอไอ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหลายด้าน ทั้งในภาคการศึกษา ธุรกิจ การคมนาคม วันนี้ GOT ITZ จะพามารู้จักกับ Manavis ระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจด้วยการระบบวิเคราะห์ข้อมูลจากวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นส่วนค้าปลีกด้วยการประยุกต์ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ส่วนเอเจนซี่ในการวิเคราะห์ PR ที่ทำไป รวมถึงภาคส่วนโรงงานอุตสาหกรรมที่สามารถนำ Manavis มาใช้วิเคราะห์สิ่งผิดปกติในสายพานได้
Manavis คืออะไร?
มานาวิส วิดีโอ แอนะลิติกส์ (Manavis Video Analytics) ระบบวิเคราะห์วิดีโอด้วยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่ผู้ประกอบการสามารถนำระบบนี้มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลวิดีโอที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยมีการเลือกดูในบางส่วนซ้ำ ๆ
การประยุกต์ใช้ Manavis ระบบวิเคราะห์วิดีโอกับสายการตลาด
- วิเคราะห์ Customer journey ในร้านค้า ว่ามีคนเข้าถึงบริเวณใด และมีเส้นทางการดูสินค้าในร้านอย่างไร
- วิเคราะห์โฆษณาว่ามีสินค้าที่แบรนด์จ่ายในการประชาสัมพันธ์กี่ครั้ง
การประยุกต์ใช้ Manavis ระบบวิเคราะห์วิดีโอกับภาคอุตสาหกรรม
- แจ้งเตือนจุดบกพร่องของสินค้าในสายพาน (Automatic QC)
AI คืออะไร?
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI : Artificial Intelligence) คือระบบซึ่งโปรเจคคำสั่งให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลตามที่กำหนดได้ มีสามารถในการทำความเข้าใจ เรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ โดย AI ที่มีฉลาดสามารถทำงานในด้านต่าง ๆ เสมือนมนุษย์ และเป็นโครงสร้างสมองสั่งการของหุ่นยนต์ที่เราจะเห็นกันในอนาคตด้วย
Manavis ทำงานยังไง?
เริ่มต้นด้วยการที่เราป้อนข้อมูลเข้าไป เมื่อมีข้อมูลเข้ามาในระบบ ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลจากการเก็บสถิติ และแสดงผลออกมาให้เรารู้ถึงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายของเรา Manavis สามารถอ่านข้อมูลทั้งระบบวิดีโอได้ทั้งกล้องวงจรปิดและทีวี
Manavis มีข้อดีอย่างไร
1. ลดจำนวนคน
การนำ Manavis มาใช้ แน่นอนว่า จะลดการใช้จำนวนคนลงได้ เราไม่จำเป็นต้องใช้คน มานั่งเฝ้าหน้าประตู เพื่อนับจำนวนคนเดินผ่าน หรือมีพนักงานมาสังเกตการณ์ว่า ลูกค้าเดินโซนไหนบ่อยที่สุด เพราะ Manavis จะเก็บสถิติ คือ จำนวนคนที่เข้าร้าน และลูกค้าเดินโซนไหนมากที่สุด สนใจสินค้าไหนมากที่สุด
2. ประหยัดเวลา
เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วระบบสามารถวิเคราะห์ตามโปรแกรมที่ตั้งค่าไว้ และสามารถสรุปรายงานออกมาเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนตามความต้องการโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เอง
3. ลดค่าใช้จ่าย
การเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และการรายงานผล เป็นงานที่ต้องใช้บุคลากร และเวลาในการจัดทำ ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หรือในกรณีที่เป็นโรงงานการ QC ที่ผิดพลาด มีโอกาสทำให้ออเดอร์ทั้งล็อตนั้นถูกปฏิเสธได้ การมี Manavis จึงสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ในทั้งแง่มุมการวิเคราะห์การตลาด และการวิเคราะห์สินค้า
4. เพิ่มยอดขาย
ข้อมูลที่ได้จาก manavis เราสามารถนำไปต่อยอด เพิ่มการกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้าให้เหมาะกับพฤติกรรมของเข้าชมร้าน ใช้ง่ายงาน มีความถูกต้องและแม่นยำสูง
ตัวอย่างการใช้ manavis ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
ยกตัวอย่างการวิเคราะห์การใช้ Manavis ให้เห็นภาพชัด ๆ อย่างเช่น หากเราเป็นเจ้าของธุรกิจ การใช้ Manavis มาวิเคราะห์ข้อมูล จะทำให้รู้ว่าคนผ่านหน้าร้านกี่คน เราก็จะได้พิจารณาว่าจะเช่าต่อไหม หากมีคนผ่านหน้าร้านจำนวนมาก แต่ไม่เข้ามาในร้านเราเลย ก็เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าการจัดหน้าร้าน หรือการทำ Display อาจยังไม่ดึงดูดใจ และเมื่อมีคนเดินเข้ามาในร้านค้าของเราแล้ว คนดูสินค้าโซนไหนเยอะ การเดินทาง (Customer Journey) ในร้านของเราส่วนมากจะเป็นอย่างไร เพื่อปรับการจัดร้าน และจัดโซนสินค้า และโปรโมชั่นต่าง ๆ
นอกจากนี้ Manavis ยังสามารถใช้กับการเก็บสถิติในรายการต่าง ๆ ด้วย เช่น เราเป็นเจ้าของแบรนด์ และจ้างรายการในช่องทางสื่อหรืออินฟลูเอนเซอร์เพื่อทำการประชาสัมพันธ์แบรนด์ของเรา ระบบเอไอ Manavis จะช่วยบอกได้ว่า อินฟลูเอนเซอร์หรือรายการที่เราจ้างไปนั้นมีการพูดถึงแบรนด์ของเรากี่ครั้ง ตรงตามที่กำหนดในสัญญาหรือไม่
ในการควบคุมคุณภาพสินค้า Manavis ก็มีบทบาทที่สำคัญและช่วยให้เจ้าของกิจการในอุตสาหกรรมการผลิตหรือโรงงานทำงานง่ายขึ้น โดยการเก็บสถิติสินค้าที่ผลิตได้ต่อวัน คุณภาพสินค้าเป็นอย่างไร แทนการใช้แรงงานคนมาตรวจงาน เพราะอาจจะเกิด Human Error ทำให้งานผิดพลาดหรือหลุด QC ได้
จะเห็นได้ว่า การใช้เอไอ ช่วยทำให้สามารถเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และสรุปเป็นรายงานหรือการแสดงผลได้ดีกว่า ประหยัดทั้งเงินและเวลา ได้ข้อมูลที่แม่นยำ ผู้ประกอบการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น
ลูกค้าของ Manavis
สำหรับธุรกิจไหน ต้องการใช้ระบบ Manavis Video Analytics สามารถติดต่อได้ที่ admins@gotitz.com