Drip marketing คือ
Drip marketing เป็นแคมเปญการตลาดแบบหนึ่งที่เน้นการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายในการทำ drip marketing คือการดูแลลีด (Lead) ที่ได้มาจากช่องทางต่าง ๆ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลบริษัท สินค้า บริการ รวมทั้งการนำเสนอกิจกรรมและโปรโมชั่นที่ลูกค้าคนนั้นมีความสนใจ
การตั้งแคมเปญ Drip marketing ส่วนมากเราจะใช้เครื่องมือ Marketing automation ในการส่งสารที่เหมาะสมไปยังกลุ่มลูกค้าที่แบ่งไว้แล้ว (Segmented lead) โดยตั้งค่าในการส่งอัตโนมัติให้ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์เรา อาทิ หากลูกค้าเคยลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมตรวจสุขภาพฟรี สารที่ส่งใน drip marketing ก็ควรจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสุขภาพที่น่าสนใจ โปรโมชั่นการตรวจสุขภาพใกล้เคียงที่เคยตรวจ รวมถึงการเตือนเมื่อถึงระยะเวลาในการตรวจสุขภาพแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง
ประโยชน์ของ Drip marketing คือการที่แบรนด์มีปฏิสัมพันธ์กับลีดหรือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สามารถเปลี่ยนจากลีดเป็นลูกค้า เพิ่มการซื้อซ้ำของลูกค้าเดิม และสร้างการบอกต่อในกิจกรรมที่ลูกค้าเดิมสนใจกับเพื่อนรอบตัว
สรุปก็คือ การทำ Drip marketing แคมเปญการสื่อสารในการช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างแบรนด์กับลูกค้า เพื่อให้ข้อมูล ข่าวสาร และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ลูกค้าสนใจ
Drip marketing ต่างจาก CRM อย่างไร
Drip marketing อาจจะฟังวิธ๊การแล้วคล้าย ๆ กับ CRM หรือ การทำ Customer relationship management แต่ที่จริงแล้วมีความแตกต่างกันมากทีเดียว
Drip marketing คือประเภทของแคมเปญการตลาดรูปแบบหนึ่ง ที่เน้นการส่งสารไปยังลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องในระยะยาว เป้าหมายของแคมเปญ drip marketing คือให้ลูกค้าอยู่กับเรานาน ๆ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นลีดหรือลูกค้าในปัจจุบัน
ส่วน Customer Relationship Management (CRM) คือ กลยุทธ์ทางการตลาดในการบริหารจัดการ ดูแลความสัมพันธ์ การตอบสนองระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งการทำ CRM นั้นต้องใช้ความร่วมมือกันของหลาย ๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายไอที ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อวางแผนในระยะยาว วางกลยุทธ์ และวางเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้งาน
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Drip marketing ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ CRM
สรุปคือ CRM คือแผน คือกลยุทธ์ คือขั้นตอนการทำงาน ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดูแล บริหาร และจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า ส่วน drip marketing นั้นมุ่งเป้าไปที่การใช้ marketing automation ในการส่งสารที่ลูกค้าสนใจเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
6 ขั้นตอนการทำ Drip marketing ให้ประสบความสำเร็จ
1. ตั้งเป้าหมาย
ตั้งเป้าให้ได้ว่าเราต้องการอะไรจากสารที่จะส่งลูกค้า ต้องการให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์กับลูกค้าเพิ่ม ต้องการสร้างความสัมพันธ์ ต้องการแนะนำกิจกรรม หรือต้องการเพิ่มยอดขาย
หากต้องการทั้งให้ข้อมูล ต้องการเพิ่มยอด เราก็ต้องตั้งเป้าหมายในแต่ละขั้นตอนของสารที่ส่งไป อาทิ ส่งข้อมูลสินค้าไปแล้วมีปุ่มกดลิงค์เพิ่มอ่านเพิ่ม ถ้าลูกค้าคนไหนกดปุ่มนั้นให้ส่งเมล์โปรโมชั่นตามไป แต่ถ้ายังไม่กด ก็ส่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ลูกค้าอาจจะสนใจเพิ่มตามไป เป็นต้น
2. แบ่งกลุ่มลูกค้าที่จะส่งสารไปหา
การทำ Drip marketing แคมเปญที่ดีนั้นต้องปรับคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน การแบ่งกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราให้ชัดเจนจะช่วยให้ระบบ marketing automation สามารถส่งคอนเทนต์ไปยังแต่ละกลุ่มได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เราสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าได้จาก ข้อมูลประชากร (Demographics), พฤติกรรม, หรือความสนใจ โดยสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้จากการที่ลูกค้าได้กดปุ่ม กดโพสต์ หรือเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์หน้าไหนของเราเป็นพิเศษ
3. ปรับคอนเทนต์ให้ตรงความต้องการของลูกค้าแต่ละคน (Personalize)
ลองคิดดูว่าหากเราได้เมล์ที่ส่งถึงชื่อเรา มีข้อมูลประกอบที่เกี่ยวข้องกับเรา หรือมีเนื้อหาที่เรากำลังสนใจอยู่โอกาสที่เราจะเปิดอ่าน อ่านให้จบ หรือแม้กระทั่งกดอ่านต่อ ย่อมสูงกว่าเมล์ที่ส่งเหมือนหว่านไปให้ทุกคน
การปรับคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนยังช่วยลดโอกาสการ unsubscribe หรือลดความรำคาญของลูกค้าที่ได้รับสารจากแบรนด์เราอีกด้วย
4. อย่าลืม Call to action
ในทุกคอนเทนต์ที่ส่งออกต้องมี Call to action ที่สามารถเห็นได้ชัดเจน และง่ายต่อคนอ่านว่าจะให้เขาทำอะไรต่อ อย่างคำว่า ลงทะเบียนฟรี อ่านเพิ่มเติม หรือ รับโปรโมชั่น เป็นต้น
หากไม่มี Call to action ที่ชัดเจนแล้วลูกค้าก็แค่เข้ามาอ่านแล้วก็ผ่านไป
5. ทดสอบและปรับปรุง
การทำการตลาดออนไลน์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การสร้างแคมเปญแบบ A/B test เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เราไม่มีทางคาดหวังผลลัพธ์ที่เคยได้จากแคมเปญเดิม 100% ได้แต่คาดว่าสิ่งที่ทำน่าจะเวิร์ค และสิ่งที่กำลังทำใหม่นั้นน่าจะเวิร์คกว่าเดิม
เมื่อทำ A/B test แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือดูผลลัพธ์เพื่อนำมาวิเคราะห์หาข้อดี ข้อเสียเพื่อใช้ในการสร้างแคมเปญครั้งต่อ ๆ ไป
6. สม่ำเสมอ
ตั้งค่าการส่งสารใน Marketing automation ที่เลือกใช้สำหรับ drip marketing แคมเปญ โดยมีระยะเวลาการส่งสารสม่ำเสมอ ไม่ถี่เกินไปจนลูกค้ารำคาญ ไม่ห่างเกินจนลูกค้าลืม
เพียงใช้ 6 ข้อนี้เป็นไกด์ในการวาง Drip marketing แคมเปญ โอกาสในที่แคมเปญนี้จะประสบผลสำเร็จนั้นมีสูงกว่าไม่ได้ใช้ไกด์นี้มากเลยค่ะ
อยากเริ่มทำ Drip marketing แคมเปญแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ปรึกษาเราฟรีได้ที่ admins@gotitz.com