การทำ Direct Marketing ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนนั้นควรมีเครื่องมือ หรือมีซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยเหลือ ลองจิตนการดูว่าหากเรามีลูกค้า 100 คน เราต้องปรับแต่งข้อความให้แต่ละคน สแล้วค่อย ๆ ส่งจะเสียเวลาขนาดไหน ถ้ามีลูกค้า 1000 คนละ และถ้ามากกว่านั้น เครื่องมือที่เข้ามาช่วยจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญการตลาดทางตรงของคุณได้
GOT ITZ ขอแนะนำ 5 ซอฟต์แวร์ หรือเครื่องมือการตลาด (Marketing Technology) ที่สามารถเข้ามาช่วยในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำแคมเปญ Direct Marketing ได้เป็นอย่างดี
1. ซอฟต์แวร์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)
ระบบ CRM สามารถช่วยคุณจัดการข้อมูลลูกค้าและผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณ ติดตามการโต้ตอบ และแบ่งกลุ่มผู้ชมของคุณสำหรับการส่งข้อความที่ตรงเป้าหมาย ในแต่ละช่องทางที่บริษัทติดต่อกับลูกค้าคนนั้น ๆ อยู่ ระบบ CRM จะช่วยในเรื่องการปรับแต่งข้อความให้ตรงกับแต่ละกลุ่มลูกค้า (Personalization) เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร เพิ่มสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างบริษัทกับลูกค้า
2. ซอฟต์แวร์การตลาดผ่านอีเมล (Electronic Direct Mail: eDM)
แพลตฟอร์มการตลาดผ่านอีเมลสามารถช่วยคุณสร้างและส่งแคมเปญอีเมลที่ตรงเป้าหมาย ส่งข้อความอัตโนมัติ และติดตามผลลัพธ์ของคุณ ซึ่งในปัจจุบันนี้แพลต์ฟอร์ม eDM มีให้เลือกมากมาย แถมยังฟรีการใชข้งานในเดือนแรก ๆ ไม่ว่าจะเป็น MailChimp https://mailchimp.com/ หรือ HubSpot https://hubspot.com/
คุณสามารถลองใช้งานเพิ่มดูว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่แพลตฟอร์มนั้นมีสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณและองค์กรของคุณในการทำแคมเปญไหม อาทิ การทดสอบ A/B การแบ่งกลุ่มลูกค้าในอีเมลลิสต์ และการทำระบบส่งเมลอัตโนมัติในรูปแบบต่าง ๆ
3. ซอฟต์แวร์ระบบการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation)
ซอฟต์แวร์ระบบการตลาดอัตโนมัติสามารถช่วยให้คุณปรับปรุงกระบวนการทางการตลาดของคุณ โดยเฉพาะงานซ้ำๆ ให้ทำแบบอัตโนมัติ และช่วยวิเคราะห์ผลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญของคุณ มองหาแพลตฟอร์มที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การให้คะแนนลูกค้าเป้าหมาย การตั้งค่าผังการทำงาน (Flow) และการจัดการแคมเปญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ของคุณ
4. เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics)
ในทุกแคมเปญของการตลาด ที่ขาดไม่ได้เลยคือ เครื่องมือวิเคราะห์ผล อาทิ Google Analytics เครื่องมือวิเคราะห์ผลเหล่านี้จะช่วยคุณติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญ วัด ROI ของคุณ และระบุส่วนที่ต้องปรับปรุง รวมถึงสามารถนำข้อมูลมาใช้เพื่อช่วยในการตัดสินใจและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดของคุณในอนาคตได้อีกด้วย
5. เครื่องมือปรับแต่งส่วนบุคคล (Personalization)
เครื่องมือปรับแต่งให้เหมาะกับคุณ เช่น การแสดงเนื้อหาแบบไดนามิกหรือวิดีโอที่ปรับเปลี่ยนในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย หรือแต่ละความสนใจของลูกค้า ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าเข้าเว็บไซต์มาแล้วคลิกอ่านเกี่ยวกับนมผงสำหรับเด็กอายุ 1 – 2 ขวบ เนื้อหาในส่วนที่เป็นไดนามิก จะต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับคน ๆ นี้ ด้วยการแสดงสินค้า บริการ หรือโปรโมชั่นที่เกี่ยวกับเด็กอายุ 1 – 2 ขวบ แทนที่จะเป็นเนื้อหาทั่่ว ๆ ไป
การใช้เครื่องมือปรับแต่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถได้รับข้อมูลที่ต้องการ รวมถึงการสื่อสารที่เกี่ยวข้องโดยไม่ทำให้รู้สึกรำคาญหรือตะขิดตะขวงใจ ซึ่งเป็นการสร้างการสื่อสารที่มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องมากขึ้นสำหรับผู้ชม หรือลูกค้าของคุณ การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณจะช่วยให้คุณโดดเด่นกว่าคู่แข่งและปรับปรุงอัตราการตอบกลับของคุณ
สรุปเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Direct Marketing
การใช้เครื่องมือเหล่านี้ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดทางตรง ปรับปรุงการกำหนดเป้าหมายและการปรับเปลี่ยนเนื้อหา ข้อความ เพื่อจุดมุ่งหมายในการเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจของคุณ