ข้อดีของการทำตลาดแบบ Predictive Marketing​ ที่จะช่วยธุรกิจให้ยอดขายปังยิ่งขึ้น

ในตลาดโลกที่การแข่งขันสูง การทำการตลาดหลากหลายรูปแบบถูกงัดมาใช้กันอย่างเต็มที่ ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ ดูเหมือนการแข่งขันจะดุเดือดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะทางออนไลน์ที่ทุกคนสามารถทำการตลาดให้สินค้าและบริการได้ด้วยตนเอง ทำให้การแข่งขันยิ่งสูงมากขึ้น วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ Predictive Marketing เทคนิคดี ๆ ที่ทำให้ตลาดออนไลน์ของคุณ ตรงใจกลุ่มเป้าหมายลูกค้ามากขึ้น

เข้าใจกลุ่มเป้าหมายด้วย Predictive Marketing

Predictive Marketing คือ เทคนิคการเข้าใจพฤติกรรมผู้ซื้อหรือกลุ่มลูกค้าของคุณ เข้าใจว่า กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าใช้ชีวิตอย่างไร ใช้อะไรบ้างในการดำเนินชีวิตประจำวัน มีพฤติกรรมการจับจ่ายและเลือกซื้อสินค้าอย่างไร เพื่อที่เราจะได้ปรับปรุงฟังก์ชันสินค้าและการนำเสนอสินค้าให้เข้าถึงลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้ เทคนิคนี้ยังสามารถวิเคราะห์ถึงแนวโน้มการตลาดว่าสินค้าตัวนี้จะปังหรือจะแป้กได้ 

เทคนิค Predictive Marketing ดีอย่างไรกับการทำการตลาด

เทคโนโลยีนี้จะช่วยรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลออกมาได้แบบเรียลไทม์ และนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นมาใช้เพื่อทำการตลาดให้ดีขึ้น  เราจะรู้ว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของเรา สนใจอะไรเป็นพิเศษ ใช้สินค้าอะไรบ่อยที่สุด  รวมไปถึงไม่สนใจอะไรมากที่สุด  ทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่าแคมเปญโฆษณาไหนควรทำต่อ แคมเปญไหนที่ควรปรับปรุงคุณภาพ นอกจากนี้ยังให้คุณวิเคราะห์ได้ถึงการเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าใหม่ ๆ ขณะเดียวกันก็ทำแคมเปญที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าเดิม เพื่อกระตุ้นให้กลับมาซื้อซ้ำได้ด้วย

ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มลูกค้าคือ คุณแม่วัย 25-30 เคยคลิกดูเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเด็ก  มีแนวโน้มว่าอาจจะสนใจ ของเล่นเด็ก  รถเข็นเด็ก สินค้าในหมวดหมู่แม่และเด็ก รวมถึงคอนเทนต์สำหรับคุณแม่มือใหม่ ส่วนลดต่าง ๆ เพราะเป็นกลุ่มคนที่ดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้เราสามารถทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ โดยการนำเสนอสินค้าและบริการของเรา ถ้าเรารู้ว่า กลุ่มคุณแม่ ยังซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบธรรมดาบ่อย ๆ เราอาจจะนำเสนอสินค้าแม่และเด็กที่ฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบบอกปริมาณการขับถ่ายของหนูน้อย ที่แถบด้านข้าง โดยไม่ต้องแกะผ้าอ้อม  ย่อมดึงความสนใจของกลุ่มคุณแม่ได้แน่นอน เพราะสินค้าตอบสนองกิจวัตรประจำวันของกลุ่มคุณแม่ใช้ผ้าอ้อมทุกวัน แต่สินค้าของเรายิงตรงที่การแก้ปัญหาความยุ่งยากให้เหล่าคุณแม่ หรืออาจจะนำเสนอคอร์สเตรียมความพร้อมของลูกก่อนเข้าอนุบาล ของเล่นเสริมพัฒนาการแบบมีส่วนลด เป็นต้น

ลูกค้ามักจะมีการตอบสนองกับคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ที่สร้างมาเพื่อเฉพาะเขาหรือกลุ่มคนที่คล้ายกัน มีโอกาสสูงที่จะสร้างลูกค้าที่มีความ Customer Loyalty ต่อแบรนด์ของเรา เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่าแบรนด์รู้ใจเขา และแก้ปัญหาให้กับเขาได้

หัวใจหลักของ Predictive Marketing

เคยได้ยินหรือไม่ว่า “ข้อมูลที่ดีที่สุดของอนาคต ก็คือ ข้อมูลในอดีต” หัวใจหลักของ Predictive Marketing ก็คือ สถิติ ข้อมูล ที่นักการตลาดทองว่าเป็นอาวุธที่สำคัญ ยิ่งเก็บรวบรวมได้ ยิ่งมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้การวิเคราะห์แม่นยำมากขึ้น ทดสอบกลยุทธ์ทางการตลาดได้มากขึ้น ใช้ข้อมูลเชิงลึกมาประกอบได้ละเอียดขึ้นด้วย

Predictive Marketing ดีอย่างไร 

       การจะทำการตลาดแบบ Predictive Marketing เป็นการเก็บข้อมูลของลูกค้า ซึ่งเมื่อมีข้อมูลลูกค้าที่มากเพียงพอ โอกาสในการขายก็จะมีมากยิ่งขึ้นไปด้วย ถ้าจะแยกว่า Predictive Marketing ดีอย่างไรนั้น สามารถแบ่งได้ 5 ด้าน ดังนี้ 

1. Upselling

   คือ การเสนอขนาดสินค้าที่คุณสมบัติเหนือกว่าที่ลูกค้าต้องการ เช่น ลูกค้าสนใจ Tablet คุณภาพกลางๆ เราอาจจะเสนอว่า มี Tablet มีรุ่นที่สเปคการใช้งานสูงกว่าหลายด้าน เพียงคุณเพิ่งเงิน 1,xxx บาท ข้อมูลนี้ จะทำให้รู้ว่า ลูกค้าจะเลือกสินค้าตัวไหน 

2. Cross-selling

   คือ การเสนอขายสินค้าที่อยู่ในกลุ่มความสนใจของลูกค้า เช่น ลูกค้าสนใจสินค้า ซึ่งคือ บลัชออน คุณอาจจะเสนอขายแปรงแต่งหน้าที่ช่วยให้บลัชออนติดทนนานด้วย แน่นอนว่ามีทั้งคนที่สนใจ บลัชออนแต่ไม่สนใจแปรงบลัชออน และคนที่สนใจบลัชออนและสนใจจะซื้อแปรงบลัชออน เพื่อให้ตัวเองแต่งหน้าได้สวยสมบูรณ์แบบมากขึ้น  นั่นจะทำให้คุณรู้ว่า ใครที่สนใจ บลัชออนตัวนี้และสนใจจะใช้จริง ๆ คุณจะได้ทำการตลาดให้ถูกกลุ่ม 

3. Web optimization

   หรือ การปรับปรุงเว็บไซต์ เว็บไซต์ของแบรนด์จะช่วยคุณในการเก็บสถิติ ว่ากลุ่มเป้าหมายคลิกอะไร หยุดดูสินค้าอะไรในหน้าเว็บไซต์ กดสั่งซื้ออะไร ทำให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าเจอสิ่งที่สนใจได้ง่ายขึ้น
   
   อ่านเพิ่มเติมหัวข้อที่เกี่ยวข้อง เว็บไซต์ หน้าร้านออนไลน์ที่ทุกธุรกิจต้องมี | วิธีทำ SEO ให้ติดอันดับ หน้าแรกด้วยทริกพื้นฐาน 5 ข้อ

4. Profiling

   หรือการจัดทำข้อมูลลูกค้า ทำให้เราสามารถรู้ถึง กลุ่มอายุ ไลฟ์สไตล์ ความชอบของลูกค้า ว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไร เราจะได้เสนอขายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้

5. Retention

   หรือการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้า เป็นหนึ่งในข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยเราคาดเดาพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ลูกค้ากลุ่มไหนจะกลับมาซื้อซ้ำ  กลุ่มไหนที่ไม่ได้กลับมาซื้อ ทำให้เรารู้ว่าต้องแบ่งกลยุทธ์ในการดูแลฐานลูกค้าเดิม และดึงฐานลูกค้าที่ไม่ได้กลับมาซื้อ ให้กลับมาซื้อซ้ำอีก

ข้อมูลของลูกค้ามีค่าดุจทองคำ สำหรับนักการตลาด สินค้าไหนที่ลูกค้าชอบ บริการไหนที่ลูกค้าใช้ซ้ำเป็นประจำ ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่คุณจะต้องรู้และวิเคราะห์ เพื่อหาทางตลอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่ง เทคนิค Predictive Marketing จะมาช่วยคุณให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น ทำให้สามารถเข้าใจและวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของตลาด และการแข่งขัน รวมไปถึงการค้นหาลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย และรักษากลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่นเพื่อรักษาฐานยอดขายได้  นักการตลาดมือใหม่หรือใครที่กำลังทำการตลาดออนไลน์ ควรศึกษา เทคนิค Predictive Marketing ที่จะเป็นตัวช่วยให้ยอดขายปังยิ่งขึ้น

ต้องการที่ปรึกษาทางการตลาดอีเมล์เข้ามานัดพูดคุยได้ที่ admins@gotitz.com