การตลาดผ่าน Facebook ยังได้ผลอยู่หรือไม่ ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า Facebook เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดทั้งออนไลน์และดิจิทัลที่มาแรงที่สุดและแทบจะเป็นหลักในการกระจายข้อมูลข่าวสารสินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการ ยังไม่รวมถึงการส่งข้อมูลโปรโมชั่น รวมถึงการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ของธุรกิจในหลากหลายสาขา รวมถึงในปีที่ผ่านมา Facebook เองก็มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ ว่า Facebook จะมีการปรับรูปแบบ อาทิ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในอนาคตอันใกล้ จะมีการเปลี่ยนโฉมไปสู่ Metaverse หรือข่าวอื่น ๆ ที่เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าข่าวการปรับเปลี่ยนของหลังบ้านของ Facebook นี้ออกจะสร้างความกังวลให้กับเจ้าของธุรกิจที่พึ่งพาอาศัยโซเชียลมีเดียชื่อดังนี้อยู่ไม่น้อย ส่วนหนึ่งอาจเพราะเกรงว่าจะกระทบกับยอดลูกค้า หรือการทำการตลาดที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแบบอื่น ๆ โดยบทความนี้จะมาบอกให้ทุกคนได้ทราบว่าการทำการตลาดบน Facebook ในปีนี้ก็ยังคงใช้ได้ผล และยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่ช่วยให้ธุรกิจคุณยังไปต่อได้ และไม่แค่ไปได้เท่านั้น แต่ยังฟูเฟื่องเรืองรองอยู่แน่นอน
การตลาดผ่าน Facebook ยังได้ผลอยู่หรือไม่และเหตุผลที่การทำการตลาดผ่าน Facebook จะยังใช้ได้ดี
1.เพราะ Facebook รองรับ Single Sign on Digital ID เดียว ทำให้ log in ครั้งเดียวสามารถ ง่ายใช้ได้ทุกแพลตฟอร์มและโลกออนไลน์
จากผลการสำรวจของเอ็ตด้า (Electronic Transactions Development Agency : ETDA) หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประเทศไทยเมื่อปี 2563 ประชาชนคนไทยอยากมีบัญชีออนไลน์เดียวที่สามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ได้ ถึง 64.4% และ Facebook Account คือสิ่งนั้น ที่มาทำให้เราสามารถล็อกอินแพลตฟอร์มออนไลน์อะไรใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือต่างประเทศ วิชาการหรือความบันเทิง การซื้อของออนไลน์ผ่านทั้ง Facebook Instagram TikTok Lazada Shopee
ดังนั้น การมี Facebook Account คือด่านแรกของการเปิดโลกทั้งหมด เอ็ตด้ายังได้สำรวจและพบอีกเช่นเดียวกันว่า คนไทยมักขายสินค้าบน Facebook เป็นหลัก มากกว่า Shopee และ Lazada ประกอบกับขณะนี้โซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานเยอะที่สุดในโลก อันดับหนึ่งก็คือ Facebook ที่มีผู้ใช้งาน Active ต่อเดือนประมาณ 2.6 พันล้านคนเลยทีเดียว และหากย่อยลงมาเป็นผู้ใช้งานเฟสบุ๊คต่อวันจะอยู่ 1.7 พันล้านคนต่อวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้งานมากกว่า 36% จะรับข้อมูลข่าวสารผ่านทางเฟสบุ๊ค
ทั้งหมดนี้ จึงไม่แปลกนักว่าทำไมแค่มี Account คุณจะขายสินค้า บริการ โปรโมท หรือสร้างคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นยอดขายได้อย่างสบาย ๆ
2.เพราะ Facebook รองรับ Technology Trend ล้ำ ๆ อย่าง AR/VR/MR
เว็บไซต์ IEEE1 ระบุว่าจากการระบาดของโควิดกลายเป็นตัวเร่งในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud computing) AI แมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) 5G รวมถึง AR/VR/MR และยิ่งเมื่อมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กเจ้าของเฟสบุ๊คประกาศว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีการเข้าสู่ Metaverse แบบเต็มรูปแบบ ยิ่งทำให้เฟสบุ๊คจะเป็น เจ้าแรก ๆ ที่รองรับการใช้งานเทคโนโลยีที่ล้ำหน้านี้ เนื่องจากแนวคิด Metaverse มีจุดเด่นอยู่ที่การ “เชื่อมต่อ” กับผู้อื่นได้ทั้งโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน ผู้ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงจึงสามารถเข้าไปโลดแล่นและใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ และใช้งานพร้อมกันได้ในจำนวนมาก โดยไม่ว่าใครก็สามารถล็อกออนเพื่อใช้งานและมีปฏิสัมพันธ์กันได้ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านจำนวนผู้ใช้งาน รวมถึงโลก Metaverse ความแตกต่างของเวลาจะหายไป เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ทวีปใดบนโลก หรือจักรวาลนี้ Time Zone ต่างกัน แต่ทุกอย่างล้วนเชื่อมถึงกันได้ ผ่าน Virtual Reality (VR)
การตลาดที่เชื่อมระหว่างโลกเสมือนและโลกแห่งความเป็นจริงจะปิดช่องว่างในด้านเวลา และสถานที่ ลูกค้าจะอยู่แห่งหนตำบลใด หรือทวีปใดหรือเวลาที่ต่าง time zone กัน ก็ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เพราะทุกอย่างเชื่อมต่อและเข้าถึงกันได้ทั้ง Ecosystem ไม่ว่าจะการตลาด การซื้อการขาย พฤติกรรมผู้บริโภค พฤติกรรมการดำเนินชีวิต แผนการตลาดผ่าน Facebook หรือ Metaverse ในอนาคตจะเป็นตัวหลอมรวมทุกสิ่งแบบไร้รอยต่อและไม่มีขีดจำกัด
3.Facebook Insights รู้ได้ทุกอย่างเพื่อวัดผลและปรับแผน
แม้การตลาดจะสำคัญที่เริ่มต้น คือการวางแผน แต่ต้องไม่ลืมว่าเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน หรือแม้จะล้มเหลวก็ตาม การตลาดที่ดีจะต้องมีการติดตาม การวัดผล และกระบวนการพัฒนาปรับปรุง
Facebook Insights จะเป็น Tool สำคัญเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้การตลาดของคุณสมบูรณ์มากขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการด้วยการติดตาม วัดผล โดยดูจำนวนผู้ชมผ่านเพจของคุณได้ ไม่เพียงแค่จำนวนผู้เข้าชม ยังดูได้ทั้งจำนวนการกดไลค์ กดแชร์ จำนวนผู้เห็นโพสต์ของคุณ จำนวนคนที่ผ่านเข้ามาแบบเลื่อนผ่าน เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้คือไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยงามแต่หมายถึงขุมทรัพย์ที่เมื่อถอดค่าออกมาแล้วคุณจะเห็นถึงข้อมูลสำคัญหรือ insight บางอย่างที่สามารถนำไปวางแผน วางเป้าหมาย ทำการวัดผล และเพิ่มจุดเด่น ลบจุดด้อยให้กับการตลาดผ่าน Facebook ของธุรกิจคุณ
หรือหากจำเป็นต้องปรับแผน วางหมาก เดินเกมใหม่ คุณก็สามารถใช้ Facebook Insights นี้เป็นเครื่องมือได้ ที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินก้อนโตไปกับการจ้าง Agency แพงๆ
4.Facebook Group ความสนใจจำเพาะ และคอมมูนิตี้ที่เป็นแรงขับเคลื่อนตลาดอันสำคัญ
Facebook เองมีกลุ่ม หรือ Facebook Group ที่เป็นที่รวมตัวของคนที่มีความสนใจแบบเดียวกัน ต้องการแลกเปลี่ยนร่วมกัน เป็น Community โดยจำนวนนี้มีการเพิ่มจำนวนขึ้นตลอดเวลา นอกจากกลุ่มแล้ว ผู้ใช้งานในกลุ่มแบบ Active ก็มีจำนวนมากถึงราว ๆ 1.4 ล้านคนต่อเดือน แค่เห็นตัวเลขก็เห็นช่องทางในการเจาะกลุ่มและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่าน Facebook Group แล้วใช่ไหมค่ะ
เพราะการรักษาฐานลูกค้าไว้ได้เป็นสิ่งสำคัญ แต่การหาฐานลูกค้ารายใหม่ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน การเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายช่วยให้เจ้าของธุรกิจริเริ่มสร้างความต้องการหรืออุปสงค์ได้เอง ดีไซน์แผนการตลาด การขายได้เอง รวมถึงเป็นการสร้าง Brand Positioning ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
5.แชทบอท ตัวช่วยสื่อสารและปิดการขายได้ทั้งซื้อขายและสื่อสาร
ในยุคสมัยที่ผู้คนต้องการความสะดวกสบายในการช็อปปิ้งจากทุกที่ เมื่อสนใจสินค้า อาจเริ่มจากการซักถามมากกว่าการตัดสินใจซื้อเลย แม้แต่การร้องเรียน การให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นต่าง ๆ ผ่านแชทบอทบนเฟสบุ๊คจึงทำให้แชทบอทเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ในการทำการตลาด
แชทบอทไม่ได้เป็นแค่เพียงพนักงานโต้ตอบ แต่พวกเขาคือผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกค้า พฤติกรรมของลูกค้า รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่เข้าใจลูกค้าในแบบที่เหมาะสมได้ แชทบอทจึงเป็นเครื่องมือเสริมที่สำคัญและขาดไม่ได้ในการทำการตลาดผ่าน Facebook ในยุค 5G
การทำการตลาดผ่าน Facebook เสมือนทำน้อย แต่ได้มาก ทำผ่านโซเชียลแพลตฟอร์มนี้แพลตฟอร์มเดียว สามารถเชื่อมต่อไปยังที่อื่น โลกอื่น ๆ ได้ชนิดที่ว่าสะดวกสบายแค่ขยับนิ้ว
จากประโยชน์ที่พูดถึงก่อนหน้าการทำการตลาดผ่าน Facebook จึงจะยังคงได้ผลดี และตอบโจทย์สำหรับธุรกิจทุกขนาดในปีนี้ ปี 2022 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจที่อยากจะใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไรแบบลงทุนไม่มาก ใช้กลยุทธ์นำ และมีนวัตกรรมมาช่วยขับเคลื่อน
ถึงตรงนี้แล้ว นักการตลาดก็น่าจะพอเห็นแนวทางในการทำการตลาดผ่าน Facebook และเดินหน้าสร้างแผนการตลาดผ่านเฟสบุ๊คให้ชัดเจน กระชับ และก้าวให้ทันเทคโนโลยี และสามารถใช้ประโยชน์จากโซเชียลแพลตฟอร์มนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อให้แบรนด์หรือธุรกิจสยายปีกได้อย่างแข็งแร’และไปได้ไกลยิ่งขึ้นกว่าเดิม