เทรนด์ Digital marketing มาแรง อัพเดตไว้จะได้ไม่ out โลกจะก้าวหน้าเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ การทำ Digital marketing ก็เช่นกัน เทคนิคการทำ Digital marketing บางอย่างยังใช้ได้ดีอยู่ ยังได้รับความนิยมอยู่ ในขณะที่บางอย่างก็เริ่มจะเอาท์ไปเสียแล้ว GOT ITZ จะมาอัพเดทและอัพเกรดกันสักหน่อยว่า เทรนด์ Digital marketing มาแรงมีอะไรกันบ้าง
เทรนด์ Digital Marketing มาแรง
1.AR-VR-MR
การมาของ Metaverse ทำให้หลายโซเชียลมีเดียต่างต้องปรับตัวเป็นทิวแถว ด้วยการเวลคัมและอ้าแขนรับเทคโนโลยีเสมือน ทั้ง Augmented Reality (AR),Virtual Reality (VR), และ Mixed Reality (MR) ทั้งหมดนี้จะสร้างความเชื่อมต่อระหว่างลูกค้ากับธุรกิจ โดยเฉพาะการนำมนุษย์เข้าไปอยู่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ ลองคิดดูว่าหากร้านคุณมีห้องลองเสื้อผ้าแบบเสมือนจริง หรือ MR Fitting Room ที่ลูกค้าสวมแว่นตา VR แล้วสามารถจำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้งาน เข้ามาลองสวมใส่ และสัมผัสกับบรรยากาศของร้านคุณแบบ interactive ได้ นั่นจะทำให้พวกเข้าได้มีปฏิสัมพันธ์กับร้านคุณได้มากขนาดไหน ไม่ว่าจะกี่โมง ลูกค้าอยู่มุมไหนของโลก ลูกค้าสามารถเข้ามาในร้านของคุณได้อย่างสะดวกสบาย เป็นการเพิ่มโอกาสทางการขายได้อีกระดับ
2.การแสดงผลที่โดดเด่นด้วย Featured Snippet
Snippet ถ้าไม่พูดในเชิงเทคนิค ก็คือการที่หน้า search engine แสดงผลบนอันดับแรกสุด และสรุปมาให้โดยแยกเป็นข้อ ๆ หรือเป็นประเด็น ๆ ในทันที หัวข้อครบโดยที่คุณไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่านในเว็บไซต์เลย หรือที่เรียกว่าอันดับ 0 (Position zero) นี่เป็นอีกหนึ่งเทรนด์และเป็นอีก trick และ trend ของการทำ Digital marketing ที่มาแรงมาก หากเว็บไซต์ของคุณทำได้ ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสติดอันดับแรกสุดได้ไวกว่าเดิม นอกจากนี้ หากเว็บไซต์คุณติดอันดับ Featured Snippet จะทำให้มีคนสนใจและเข้าเว็บไซต์เพิ่มขึ้นเสียด้วย
3.หาได้ด้วย Voice Search และ Visual search
ปัจจุบันผู้คนมักนิยมใช้การใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เนื่องจาก ความสะดวกสบาย พกพาไปได้ทุกที่ และรวดเร็วกว่า การทำ Digital marketing ที่รองรับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนจึงน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะกับการใช้เสียงค้นหาบนสมาร์ทโฟนเป็นตัวช่วยที่เกิดขึ้นได้จริง ในสหรัฐฯ เมื่อ ค.ศ. 2020 มีข้อมูลที่บอกว่า 27% ของประชากรโลกใช้เสียงในการค้นหาบนสมาร์ทโฟน1 และการค้นหาด้วยเสียงอาจไม่เพียงพอ จึงนำไปสู่การค้นหาแบบ Visual search โดยใน ค.ศ. 2021นี้ แบรนด์ต่าง ๆ ในสหรัฐฯ เริ่มหันกลับมาดีไซน์เว็บให้รองรับการค้นหาด้วยเสียง หรือ Voice search และรูปภาพ หรือ Visual search และที่น่าตื่นเต้นในไปกว่านั้นคือมีการคาดการณ์ว่าใน ค.ศ. 2025 หรืออีกแค่ 3 ปีเท่านั้น ตลาดของเทคโนโลยีรู้จำภาพหรือ Image recognition จะเติบโตสูงถึง 56,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว เห็นวอลลู่มของสหรัฐฯ แล้ว อีกหน่อยก็น่าจะขยายมาในบ้านเรา แต่ถ้าคุณรู้และลงมือทำก่อน ย่อมได้เปรียบ
4.แชทบอท
ในขณะที่ผู้คนต้องการความสะดวกสบายในการช็อปปิ้งจากทุกที่ การตอบข้อมูลข้อซักถามเรื่องร้องเรียน ถือเป็นเรื่องสำคัญ ลูกค้าคาดหวังมากกว่าการสั่งซื้อและได้สินค้า เพราะมากไปกว่านั้นคือการได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงได้ง่ายทุกที่ ทุกเวลา แชทบอทการให้บริการด้วย AI เพื่อใช้ส่งข้อความ และโต้ตอบกับลูกค้าแบบทันทีจึงขาดไม่ได้ในการทำ Digital marketing ความฉลาดของเจ้าแชทบอทไม่ได้เป็นแค่เพียงพนักงานโต้ตอบแต่พวกเขาคือผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม และเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้า พฤติกรรมของลูกค้า รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่เข้าใจลูกค้าในแบบที่เหมาะสมได้
5. ทำ Video marketing
Video marketing เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการผลิตคอนเทนต์ที่แรงดีไม่มีแผ่ว โดยแพลตฟอร์มที่กำลังได้รับความนิยมนั่นก็คือ TikTok พ่อค้าแม่ค้าหลายคนหันไปทำคอนเทนต์ผ่าน Video marketing กันอย่างสนุกสนาน การทำ Video marketing เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และหากทำคอนเทนต์มีคุณภาพ หรือน่าสนใจ ลูกค้าจะตอบสนองต่อวิดีโอได้ดี การทำ Video marketing ยังเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจในการนำเสนอสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่หรือผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ของธุรกิจคุณ ในปัจจุบันการทำ Video marketing นั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการทำกราฟิกอื่นแล้ว อาจจะไม่แตกต่างกันมากเมื่อสมัยก่อน ก็ยังประหยัดกว่า เพราะมีเอฟเฟอต์การตัดต่อใส่ลูกเล่นแบบสำเร็จรูปให้เลือกสรรมากมาย สามารถจัดทำได้ด้วยตนเอง
สำหรับ 5 เทรนด์การทำ Digital marketing ที่อัพเดทมานี้น่าจะเป็นกลยุทธ์และเป็นตัวเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้ ติดตามเราไว้อย่าให้คลาดสายตา เพื่อที่คุณจะได้อัพเดทและอัพเกรดความรู้ก่อนใคร ในยุคที่คิดไกลกว่า สำเร็จมากกว่า