การสร้างเว็บไซต์ก็เหมือนการเปิดหน้าร้าน ยิ่งมีคนเข้าเว็บไซต์เร็วเท่าไหร่ โอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของเราก็ยิ่งมีมากขึ้น เราจะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ของเราแสดงผลในหน้าแรก ๆ ของการค้นหาผ่านทาง google search มาลองดูเทคนิคที่ GOT ITZ ได้รวบรวมมากันนะคะ
การออกแบบเว็บไซต์ให้ดีช่วยเพิ่มยอดเข้าชม และอันดับ SEO ได้
การออกแบบเว็บไซต์แบบเข้าใจว่าลูกค้าเราต้องการอะไรสามารถเพิ่มยอด เพิ่มการสั่งจองผ่านทางเว็บไซต์อย่างมาก
ตัวอย่างที่เห็นชัด ๆ ตัวอย่างหนึ่งคือการออกแบบเว็บไซต์โรงพยาบาล
เป้าหมายที่คนเข้ามาเว็บไซต์โรงพยาบาลคือ การเข้ามาสอบถาม เข้ามาจองคิวเข้าตรวจ หรือแม้กระทั่งเรียกรถโรงพยาบาล ซึ่งถ้าเราออกแบบให้หน้าตาเว็บไซต์โรงพยาบาลเหมือนเว็บไซต์ทั่ว ๆ ไป กว่าจะอ่านรายละเอียดจบ กว่าจะเจอให้กรอกจองคิว จองรถ ผู้ใช้บริการคนนั้นอาจจะไม่ทนอ่านและปิดเว็บไซต์ไปก่อนที่จะได้ข้อมูลที่ต้องการก็ได้
แต่ถ้าเราออกแบบเว็บไซต์ให้เปิดปุ๊บสามารถเลือกหมอ เลือกเวลา แล้วกดนัดเข้ามาได้เลย พร้อมกับมีเบอร์ฉุกเฉินไว้บริเวณส่วนบนของหน้าเว็บไซต์ คนเข้ามาจองคิวก็ Happy จะเรียกรถฉุกเฉินก็มีรายละเอียดครบ
เรียกว่าถ้าเรารู้ผู้ใข้งานต้องการเข้าเว็บไซต์มาเพื่ออะไรแล้วละก็ เราก็สามารถตอบสนองให้ผู้ใช้งานมีความสุขกับการใช้เว็บไซต์เราได้ง่าย ๆ
เว็บไซต์ Responsive ช่วยเพิ่มอันดับ SEO
เว็บไซต์ responsive คือ เว็บที่เปิดไม่ว่าจะเปิดดูผ่านหน้าจอมือถือ หรือหน้าจอคอมก็ยังคงภาพรวมของเว็บไซต์ไว้ได้ เนื้อหา รูปภาพ มีการจัดเรียงให้เหมาะสมในแต่ละขนาดหน้าจอ โดยเนื้อหา รูปภาพอาจจะไม่ได้อยู่ที่เดียวกันแป๊ะ ๆ ในทุกหน้าจอที่เปิด แต่เราก็สามารถเห็นความคล้ายคลึงของดีไซน์ในทุก ๆ หน้าจอได้
หากเราสร้างเว็บแล้วลืมทำให้เป็น responsive ลองจิตนาการดูนะคะว่าหน้าเว็บไซต์ใหญ่ ๆ ที่แสดงผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะถูกบีบอัดให้เล็กขนาดไหนเพื่อให้พอดีกับหน้าจอมือถือ จะดูก็ลำบาก จะกดแต่ละปุ่มก็เล็กเหลือเกิน ดีไม่ดีคนที่เข้าเว็บเราเจอหน้าตาประหลาดแบบนั้นคงไม่แคล้วปิดหน้าเว็บของคุณไป
เดียวนี้การสร้างเว็บไซต์แบบ responsive ถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่จำเป็นต้องทำ ดังนั้นก่อนจะสร้างเว็บไซต์หรือจ้างใครมาพัฒนาเว็บไซต์อย่าลืมนึกถึง responsive design ด้วยนะคะ
Website speed ทางรอดง่าย ๆ ของเว็บที่มีคนดูเยอะ แต่ไม่ได้ยอด
ใครที่ทำเว็บก็แล้ว ทำคอนเทนต์ก็แล้ว ยิงแอดก็แล้ว ได้แต่คนเข้าเว็บไซต์เยอะเลยแต่ไม่ได้ยอดซะที ลองตรวจสอบ website speed ดูนะคะ
Website speed เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทำเว็บชอบมองข้ามไป โดยเฉพาะใครที่ทำเว็บเอง อัพโหลดเอง หรือเรียกได้ว่าทำทุกสิ่งอย่างเองนั้นแทบไม่รู้ตัวเลยว่า คนที่เข้าเว็บไซต์ที่เข้าเนี่ย ยังเข้าไม่ถึงนะ เว็บมันหมุนติ๊วๆ อยู่ แล้วด้วยความมันหมุนติ๊วอย่างนั้น คนเข้าเว็บก็ไม่รอ ปิดหน้าเว็บนั้น ๆ ไป ทำให้ยอดการเข้าถึงผู้คนหรือ impression สูง แต่ยอดอื่น ๆ ในเว็บไซต์ต่ำ
ตามสถิติ ถ้าเว็บไซต์เราไม่สามารถเปิดได้ภายใน 5 วินาที คนส่วนใหญ่มักจะกดออกจากหน้านั้นไป
วิธีตรวจสอบความเร็วของเว็บไซต์ แนะนำที่นี่ https://pagespeed.web.dev/ เป็นเครื่องมือในการทดสอบความเร็วในการเข้าชมเว็บไซต์จากทาง Google ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ทั้งการเข้าชมเว็บไซต์ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ และการเข้าชมผ่านจอมือถือ หรือ แท็บเล็ต
เมื่อเข้าตามลิงค์แล้ว ให้เราก็อปปี้ url ของเว็บไซต์เรามาใส่ในช่องว่าง และกด analyze โดยในเว็บไซต์นี้จะแนะนำละเอียดเลยค่ะว่าเว็บไซต์ที่เราเอามาตรวจสอบนั้นมีความเร็วเป็นอย่างไร ควรต้องแก้อะไรบ้าง โดยมีการแยกอย่างชัดเจนระหว่างว่าการเปิดเว็บไซต์ผ่านหน้าเดสก์ท็อป (Desktop) และผ่านหน้าจอมือถือว่าเป็นอย่างไร และต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง
Call to Action ปุ่มสำคัญ ที่คนมักลืม
Call to Action อาจจะไม่ได้กระทบกับอันดับของ SEO มากนัก แต่กระทบต่อยอดขายหรือโอกาสทางธุรกิจของเราอย่างมาก โดย Call to Action นั้นสามารถเป็นได้ทั้งลิงค์ ปุ่ม ภาพ ที่เราต้องทำให้คนเข้ามาดูเว็บไซต์เราเห็นอย่างชัดเจนว่า ถ้าจะซื้อต้องกดที่นี่นะ ถ้าจะอ่านต่อกด Subscribe member ตรงนี้ได้เลย ถ้าจะนัดหมายกดรูปนี้สิ หรือถ้าพูดภาษาการตลาดหน่อยก็คือ Call to Action คือปุ่มสำหรับเก็บ Action ที่เป็นการวัดสำคัญของเว็บไซต์เรา ไม่ว่าจะเป็นการเก็บ lead หรือ การเกิด conversion
โดยสิ่งที่หลาย ๆ คนพลาดคือการทำ Call to Action ได้เนียนไปกับบริบท และพื้นหลังเกินจนคนอ่านไม่รู้ว่าจะไปกดให้เกิด Action ตรงไหน แบบอ่านเพลิน ๆ จบบทความแล้วก็ปิดหน้าไป ทั้ง ๆ ที่หน้านั้นเรากำลังขายของอยู่นะ แต่ไม่มีใครรู้!!!
Call to Action ที่ดีต้อง เด่น มีสีที่แตกต่างกับเนื้อหาอื่น ๆ มีช่องว่างระหว่างบรรทัดบนล่าง และใช้คำง่าย ๆ ที่คนอ่านทำตามได้ทันที อาทิ คลิกเลย ลงทะเบียนเลย สมัครสมาชิกตอนนี้
ปรับปรุงเว็บไซต์ครั้งต่อไปอย่าลืม review ในส่วน Call to Action กันนะคะ
สรุปการสร้างเว็บไซต์ให้ติด SEO
คนสร้างต้องเข้าใจความต้องการใช้งานของลูกค้าว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร ถ้าสามารถทำเป็น Customer Journey ได้ก็ยิ่งจะเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ของลูกค้าเรียบร้อยอย่าลิมออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้รองรับทั้งหน้าจอมือถือ และหน้าจอตอมพิวเตอร์ รวมทั้งเทสความเร็วเว็บไซต์ว่าเว็บไซต์เราใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเปิดได้ ถ้านานไปก็ควรปรับปรุงแก้ไขก่อนจะเริ่มทำการตลาด